ฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
การงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในของพี่น้องนั้น ได้ประหารและอยู่ภายในของพี่น้อง
คือฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตาย
พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ภายใน ดำเนินอยู่ภายใน และทำให้ร่างกายที่ตายแล้วของพี่น้องเป็นขึ้นมาใหม่ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องกันไป คือการตายและเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูคริสต์
ชีวิตเก่ามนุษย์เก่าของพี่น้องได้ถูกประหารด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ชีวิตใหม่มนุษย์ใหม่ของพี่น้องทั้งหลายถูกทำให้เป็นขึ้นใหม่ทุกๆวัน และจะสำเร็จและสุกงอมเป็นสิ่งทรงสร้างใหม่ของพระคริสต์ในที่สุด นี่คือประสบการณ์ของชีวิตคริสเตียน
ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์
วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ร่วมสนิทในพระคริสต์
การร่วมสนิทในพระคริสต์
การช่วยให้รอดที่ประเสริฐและมีประสิทธิภาพที่สุด คือการตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนนั่นเอง
การตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนได้นำมนุษย์เก่าคนบาป ตัวตน ธรรมชาติของพี่น้องนั้นร่วมตรึงไว้บนไม้กางเขนแล้ว
ด้วยการตรึงตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนได้ทรงลำลายความบาปสิ้นสุดไว้บนไม้กางเขนนี้แล้ว
เมื่อพี่น้องร่วมสนิทกับพระเยซูคริสต์ด้วยการตายบนไม้กางเขน ร่วมฝังและร่วมเป็นขึ้นมาใหม่กับพระคริสต์ ทุกสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ทำนั้นได้สำเร็จการงานของพระองค์บนไม้กางเขนแล้ว
ด้วยความเชื่อของพี่น้องสิ่งเหล่านี้ได้สำเร็จเป็นจริงในตัวของพี่น้องทันที และสำเร็จเป็นนิจนิรันดร์การเป็นประสบการณืในพระคริสต์ของพี่น้องทั้งหลายในวันนี้ สรรเสริญขอบคุณพระเจ้า เอเมน.
การช่วยให้รอดที่ประเสริฐและมีประสิทธิภาพที่สุด คือการตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนนั่นเอง
การตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนได้นำมนุษย์เก่าคนบาป ตัวตน ธรรมชาติของพี่น้องนั้นร่วมตรึงไว้บนไม้กางเขนแล้ว
ด้วยการตรึงตายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนได้ทรงลำลายความบาปสิ้นสุดไว้บนไม้กางเขนนี้แล้ว
เมื่อพี่น้องร่วมสนิทกับพระเยซูคริสต์ด้วยการตายบนไม้กางเขน ร่วมฝังและร่วมเป็นขึ้นมาใหม่กับพระคริสต์ ทุกสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ทำนั้นได้สำเร็จการงานของพระองค์บนไม้กางเขนแล้ว
ด้วยความเชื่อของพี่น้องสิ่งเหล่านี้ได้สำเร็จเป็นจริงในตัวของพี่น้องทันที และสำเร็จเป็นนิจนิรันดร์การเป็นประสบการณืในพระคริสต์ของพี่น้องทั้งหลายในวันนี้ สรรเสริญขอบคุณพระเจ้า เอเมน.
วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557
2เปโตร บทที่1
2ปต. 1:1 ซีโมน เปโตร ผู้รับใช้และอัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า ถึงท่านทั้งหลายผู้ได้รับความเชื่อล้ำค่าเท่าเทียมกับความเชื่อซึ่งเราได้รับจากความเที่ยงธรรมของพระเยซูคริสต์พระเจ้าและพระผู้ไถ่ของเรา
2ปต. 1:2 ขอพระหรรษทานและสันติสมบูรณ์จงมีแด่ท่าน เพราะได้รู้จักพระเจ้าและพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
2ปต. 1:3 ด้วยพระอานุภาพในฐานะพระเจ้า พระคริสตเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เรามีชีวิตอย่างเลื่อมใสศรัทธา เพราะเรารู้จักพระองค์ผู้ทรงเรียกเราอาศัยพระสิริรุ่งโรจน์และพระฤทธานุภาพของพระองค์
2ปต. 1:4 พระองค์จึงประทานพระพรยิ่งใหญ่ล้ำค่าให้เราตามที่ทรงสัญญาไว้ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้หลุดพ้นจากความเสื่อมที่มาจาก ราคตัณหาในโลก เข้ามามีส่วนร่วมในพระธรรมชาติของพระเจ้า
2ปต. 1:5 ดังนั้น ท่านทั้งหลาย จงพยายามทุกวิถีทางที่จะใช้คุณธรรมเพิ่มพูนความเชื่อของท่าน ใช้ความรู้เพิ่มพูนคุณธรรม
2ปต. 1:6 ใช้การรู้จักบังคับตนเพิ่มพูนความรู้ ใช้ความอดทนเพิ่มพูนการรู้จักบังคับตน ใช้ความเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มพูนความอดทน
2ปต. 1:7 ใช้มิตรภาพฉันพี่น้องเพิ่มพูนความเลื่อมใสศรัทธา ใช้ความรักเพิ่มพูนมิตรภาพฉันพี่น้อง
2ปต. 1:8 ถ้าท่านมีและเพิ่มพูนคุณธรรมเหล่านี้อยู่เสมอ ท่านจะไม่อยู่อย่างไร้ประโยชน์ แต่จะมีผลคือได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรามากขึ้น
2ปต. 1:9 แต่ผู้ที่ขาดคุณธรรมเหล่านี้ย่อมมีสายตาสั้นจนบอด เขาลืมไปว่าพระเจ้าทรงชำระบาปที่เขาทำในอดีต
2ปต. 1:10 พี่น้องทั้งหลาย จงเอาใจใส่กระทำให้การที่พระเจ้าทรงเรียกและเลือกสรรท่านมีความมั่นคง ถ้าท่านปฏิบัติเช่นนี้ท่านจะไม่สะดุดล้มเลย
2ปต. 1:11 ตรงกันข้าม ท่านจะมีโอกาสอย่างมากที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรนิรันดรของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ของเรา
2ปต. 1:12 ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านระลึกถึงเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ แม้ท่านจะรู้และเชื่อมั่นในความจริงที่มีอยู่แล้ว
2ปต. 1:13 ข้าพเจ้าคิดว่าตราบใดที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ การที่ข้าพเจ้าจะคอยตักเตือนท่านให้ตื่นอยู่เสมอก็เป็นการถูกต้อง
2ปต. 1:14 ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้าจะต้องจากโลกนี้ในไม่ช้า ดังที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงแจ้งแก่ข้าพเจ้าไว้อย่างชัดเจนแล้ว
2ปต. 1:15 ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเอาใจใส่ให้ท่านทั้งหลายระลึกถึงความจริงเหล่านี้เสมอ แม้เมื่อข้าพเจ้าจากไปแล้ว
2ปต. 1:16 เมื่อเราประกาศให้ท่านรู้ถึงพระฤทธานุภาพและการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานั้น เรามิได้พูดตามนิยายงมงายที่สร้างขึ้นแต่เราประจักษ์ด้วยตาตนเองถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
2ปต. 1:17 พระองค์ทรงรับพระเกียรติและพระสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้าพระบิดาเมื่อมีเสียงตรัสจากพระสิริรุ่งโรจน์ที่ยิ่งใหญ่มาสู่พระองค์ว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา ซึ่งเราพอใจ”
2ปต. 1:18 เราได้ยินเสียงนี้มาจากสวรรค์ขณะที่เราอยู่กับพระองค์บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้น
2ปต. 1:19 เรายังมีถ้อยคำที่น่าเชื่อถือยิ่งกว่านั้นของบรรดาประกาศกและจะเป็นการดีถ้าท่านสนใจถ้อยคำเหล่านี้ รับถ้อยคำดังกล่าวเป็นเสมือนแสงประทีปส่องสว่างในที่มืด จนกว่าอรุณจะทอแสง และดาวประจำรุ่งจะปรากฏขึ้นในจิตใจของท่าน
2ปต. 1:20 จงรู้เถิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการตีความถ้อยคำของบรรดาประกาศกในพระคัมภีร์มิใช่เรื่องส่วนบุคคล
2ปต. 1:21 เพราะไม่เคยมีถ้อยคำใดของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระจิตเจ้าทรงดลใจ
บทอ่านประจำวัน 28 ธันวาคม 57 อาทิตย์ ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
28 ธันวาคม 2014
บทอ่าน บรส 3:2-6, 12-14 ; คส 3:12-21 ; ลก 2:22-40
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 149, 529, 575, 583, 587, 618, 695, 711, 713
จุดเน้น ครอบครัวคริสตชนต้องเลียนแบบชีวิตครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
พระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา ได้ปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางพรหมจารีมารีย์ ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า และประสูติในครอบครัวที่น่ารักเอาใจใส่กันและศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนักบุญโยเซฟบิดาเลี้ยง และพระมารดามารีย์ เป็นชาวยิวที่ศรัทธา รักพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ซื่อสัตย์และเชื่อฟังทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ขอให้ทั้งสองกระทำ ทั้งสองได้รักและให้เกียรติกันและกันฉันสามีภรรยาจนตลอดชีวิต ได้เอาใจใส่เลี้ยงดูพระกุมารเยซูด้วยความรัก ทั้งด้วยคำพูดและแบบอย่างในการรักพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์
เรามีโอกาสดีฟังพระวรสารวันนี้ ช่วยให้เห็นแบบอย่างความศักดิ์สิทธิ์น่าประทับใจในชีวิตของนักบุญโยเซฟ พระนางมารีย์ และพระเยซูเจ้า ซึ่งอยู่ด้วยกันในฐานะครอบครัวหนึ่ง นักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์พาพระกุมารเยซูไปที่พระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม ตามธรรมบัญญัติ เพื่อแสดงตนและถวายพระกุมารแด่พระเจ้า ขณะที่พวกเขากำลังอยู่ในพระวิหารเพื่อทำตามธรรมบัญญัติ นักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์ได้พบกับสิเมโอซึ่งเป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า ผู้เปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า สิเมโอรับพระกุมารมาอุ้มไว้และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า “ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์” เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ นักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์ประหลาดใจและสงสัยในอนาคตของพระกุมารเยซู
หลังจากที่ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติทุกประการแล้ว นักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์ก็พาพระกุมารเยซูกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธ พวกเขาดำเนินชีวิตในความรักและเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและระหว่างกัน ได้ทำหน้าที่เลี้ยงดูพระองค์ด้วยความรักและเอาใจใส่ ผลที่ตามมา คือ พระเยซูเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณ และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
บัดนี้ พี่น้องถามตนเองได้ว่า
• วิธีดำเนินชีวิตของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์สอนอะไรแก่เราสมัยปัจจุบัน
ประการแรก ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เป็นแบบอย่างสำหรับครอบครัวคริสตชน หมายความว่าทุกครอบครัวในพระศาสนจักร ถูกเรียกให้มุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ สามีภรรยาคริสตชน เหมือนโยเซฟและพระนางมารีย์ จำเป็นต้องรักพระเจ้า และซื่อสัตย์ ให้พระองค์สำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิต นี่เป็นรากฐานมั่นคงสำหรับการแต่งงานซึ่งยาวนานทั้งชีวิต นำสามีภรรยาให้เป็นหนึ่งเดียวกันในความรักพระเจ้าและรักกัน ช่วยครอบครัวให้มั่นใจว่าสมาชิกทุกคนจะเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักพระเจ้าและรักกัน
คุณลักษณะอื่นที่จำเป็น คือ นอบน้อมเชื่อฟังพระเจ้า และดำเนินชีวิตในความรัก และเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและกันและกัน ก็คือการภาวนาและปฏิบัติความเชื่อด้วยความจริงใจ ครอบครัวคริสตชนเป็นสถานที่ที่สมาชิกเติบโตในความเชื่อ เป็นที่สมาชิกแต่ละคนรักกันและช่วยเหลือสนับสนุนกัน พัฒนาให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถ เป็นสถานที่ที่สมาชิกแต่ละคนฉายแสงแห่งความดี เป็นแบบอย่างแก่คนอื่น การภาวนาด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ และการไปร่วมพิธีมิสซาด้วยกัน เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตครอบครัว
สรุป ให้พระเจ้าเป็นอันดับแรก แล้วรักและสนับสนุนกันด้วยการภาวนาและการไปร่วมมิสซาด้วยกัน ครอบครัวอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวอย่างดีแก่คนอื่นในชีวิต ครอบครัวเช่นนี้จะมีสันติสุขและความยินดี
พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(ตุลาคม – ธันวาคม 2014), หน้า 548 - 550.
บทอ่านประจำวัน 28 ธันวาคม 57 อาทิตย์ ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2014
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ และนักบุญโยเซฟ
บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา ( บสร 3:3-7, 14-17ก )
บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้ ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมให้เกียรติแก่บิดา เขารับใช้บิดามารดาเหมือนรับใช้เจ้านาย
เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน เมื่อท่านตกทุกข์ได้ยาก พระเจ้าจะทรงระลึกถึงท่าน บาปของท่านจะสลายไปดุจน้ำแข็งละลายเมื่อถูกแสงแดด บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า บุตรที่ทำให้มารดาเสียใจ จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าสาปแช่ง ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความถ่อมตนเถิด แล้วท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัล
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโคโลสี ( คส 3:12-21 )
พี่น้อง ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบากัน หากมีเรื่องผิดใจก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยแก่เขาอย่างนั้นเถิด แต่เหนือสิ่งใดจงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกันก็เพื่อจะได้บรรลุถึง สันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด ขอ พระวาจาของพระคริสตเจ้าสถิตอยู่ในท่านอย่างเต็มเปี่ยม จงสอนและตักเตือนกันด้วยปรีชาญาณ จงขอบพระคุณพระเจ้าโดยการขับร้องบทเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากใจจริง ท่านจะพูดเรื่องใดหรือทำกิจการใด ก็จงพูดจงทำในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระองค์เถิด ภรรยา จงอยู่ใต้อำนาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า สามี จงรักภรรยาและอย่าทำให้นางรู้สึกขมขื่น บุตร จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำลังใจ
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ( ลก 2:22-40 )
เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของ โมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่ พระเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติของพระเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่พระเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวตามที่มีกำหนดไว้ใน ธรรมบัญญัติของพระเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตอยู่กับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ของพระเจ้า พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติ กำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า “ข้า แต่พระเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์” โยเซฟประหลาดใจในถ้อยคำที่กล่าวถึงพระกุมาร พระนางมารีย์ก็ทรงรู้สึกเช่นเดียวกัน สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองและกล่าวแก่พระนางมารีย์ พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลง หรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน ประ กาศกหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรหญิงของฟานูเอลจากเผ่าอาเชอร์ นางชรามากแล้ว แต่งงานตั้งแต่ยังสาว อยู่กับสามีเจ็ดปี หลังจากนั้นก็เป็นม่าย เวลานี้อายุแปดสิบสี่ปี ไม่ได้ออกจากพระวิหารเลย อยู่รับใช้พระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืนโดยจำศีลอดอาหารและอธิษฐานภาวนา นางเข้ามาในเวลานั้นพอดี ขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้ทุกคนที่กำลังรอคอยการไถ่กู้กรุง เยรูซาเล็มฟัง เมื่อ โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติของพระเจ้ากำหนดไว้ สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธ เมืองของตนในแคว้นกาลิลี พระกุมารทรงเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์
เราคือผู้เลี้ยงแก่ะของพระคริสต์
1เปโตร 5:2 จงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน จงดูแลด้วยความเต็มใจตามพระประสงค์ของพระเจ้ามิใช่ดูแลด้วยจำใจ จงดูแลด้วยความสมัครใจ มิใช่ดูแลเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง
1ปต.
5:3 จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะมิใช่เป็นเหมือนเจ้านายเหนือผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง
การเลี้ยงดูแก่ะเป็นหน้าที่หนึ่งของพี่น้องที่รักในพระคริสต์ใครคือแก่ะ แก่ะตรงนี้คือพี่น้องที่แรกเชื่อ คือพี่น้องที่หลงหายไปจากทางขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า เบี่ยงเบนไปทางโลกบ้าง ทางกระแสแห่งความเห็นผิดมิจฉาทิฐิลัทธิเทียมเท็จบ้าง เราเป็นผู้เลี้ยงเราต้องนำเขากับมาในทางขององค์พระเยซูคริสต์สอนเขาให้มีหลักในพระคำของพระองค์เป็นที่มั่น
ดังนั้นจงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ฝูงแก่ะด้วยการอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐานประชุม ดำเนินชีวิตที่แบ่งแยกบริสุทธิ์อย่างเด็ดขาด เพื่อทำให้พี่น้องแก่ะที่ทารกได้เห็นเราเป็นแบบอย่างคือองค์พระคริสต์ในตัวเราออกมา
เราต้องดูแลฝูงแก่ะแบบพี่น้องแบบพ่อกับลูก แบพระเยซูคริสต์ที่วางแบบอย่างไว้
ดั้งนั้นเราต้องดูแลเลี้ยงดูแก่ะของพระเจ้าด้วยความเต็มใจไม่ใช่เพราะฝืนใจทำหน้าที่บังคับบัญชา และไม่เห็นแก่เงินทองรางวัลสิ่งของใดๆๆอย่างฝูงแก่ะ
การกับสู่ความรักดั่งเดิมทำให้เราเลี้ยงดูแก่ะของพระเจ้าด้วยความรักเมตตาอย่างเต็มใจเพราะเรารักพระคริสต์ ยำเกรงในพระองค์
ขอบคุณความรักมั่นคงที่พระคำในวันนี้เตือนข้าพระองค์ให้ดูแลฝูงแก่ะของพระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์เต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้เลี้ยงแก่ะของพระองค์ เอเมน
1ปต.
5:3 จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะมิใช่เป็นเหมือนเจ้านายเหนือผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง
การเลี้ยงดูแก่ะเป็นหน้าที่หนึ่งของพี่น้องที่รักในพระคริสต์ใครคือแก่ะ แก่ะตรงนี้คือพี่น้องที่แรกเชื่อ คือพี่น้องที่หลงหายไปจากทางขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า เบี่ยงเบนไปทางโลกบ้าง ทางกระแสแห่งความเห็นผิดมิจฉาทิฐิลัทธิเทียมเท็จบ้าง เราเป็นผู้เลี้ยงเราต้องนำเขากับมาในทางขององค์พระเยซูคริสต์สอนเขาให้มีหลักในพระคำของพระองค์เป็นที่มั่น
ดังนั้นจงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ฝูงแก่ะด้วยการอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐานประชุม ดำเนินชีวิตที่แบ่งแยกบริสุทธิ์อย่างเด็ดขาด เพื่อทำให้พี่น้องแก่ะที่ทารกได้เห็นเราเป็นแบบอย่างคือองค์พระคริสต์ในตัวเราออกมา
เราต้องดูแลฝูงแก่ะแบบพี่น้องแบบพ่อกับลูก แบพระเยซูคริสต์ที่วางแบบอย่างไว้
ดั้งนั้นเราต้องดูแลเลี้ยงดูแก่ะของพระเจ้าด้วยความเต็มใจไม่ใช่เพราะฝืนใจทำหน้าที่บังคับบัญชา และไม่เห็นแก่เงินทองรางวัลสิ่งของใดๆๆอย่างฝูงแก่ะ
การกับสู่ความรักดั่งเดิมทำให้เราเลี้ยงดูแก่ะของพระเจ้าด้วยความรักเมตตาอย่างเต็มใจเพราะเรารักพระคริสต์ ยำเกรงในพระองค์
ขอบคุณความรักมั่นคงที่พระคำในวันนี้เตือนข้าพระองค์ให้ดูแลฝูงแก่ะของพระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์เต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้เลี้ยงแก่ะของพระองค์ เอเมน
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557
Living Life 19122014เดี่ยวใน โคโลสี บทที่ 2 ข้อ 8 ถึง 15 กับ อาจารย์ปดิ...
คส. 2:8 จงระวังให้ดี อย่าให้ใครทำให้พวกท่านตกเป็นทาสด้วยหลักปรัชญา และคำหลอกลวงที่เหลวไหลตามตำนานของมนุษย์ ตามพวกภูตผีที่ครอบงำของจักรวาล ไม่ใช่ตามพระคริสต์
คส. 2:9 เพราะว่าความเป็นพระเจ้าที่ครบบริบูรณ์ทั้งสิ้นดำรงอยู่ในพระกายของพระองค์
คส. 2:10 และพวกท่านได้รับความครบบริบูรณ์ในพระองค์ ผู้ทรงเป็นศีรษะเหนือภูตผีที่ครอบครองและภูตผีที่มีอำนาจทั้งหมด
คส. 2:11 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายได้รับการเข้าสุหนัตด้วยพิธีเข้าสุหนัตที่ไม่ได้ทำด้วยมือมนุษย์ โดยการขจัดเนื้อหนังบาปด้วยการเข้าสุหนัตจากพระคริสต์
คส. 2:12 พวกท่านถูกฝังร่วมกับพระองค์ในการบัพติศมา ที่พระเจ้าทรงให้ท่านเป็นขึ้นมาร่วมกับพระองค์ด้วย โดยความเชื่อในพลานุภาพของพระเจ้าผู้ทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
คส. 2:13 และท่านซึ่งตายแล้วเนื่องด้วยการละเมิดทั้งหลาย และเนื่องด้วยการไม่ได้เข้าสุหนัตในเนื้อหนังของพวกท่าน พระเจ้าทรงทำให้พวกท่านมีชีวิตร่วมกับพระคริสต์ และทรงให้อภัยการละเมิดทั้งหลายของเรา
คส. 2:14 พระองค์ทรงฉีกเอกสารหนี้ที่มีคำสั่งต่างๆ ซึ่งต่อสู้และขัดขวางเรา และทรงขจัดไปเสียโดยตรึงไว้ที่กางเขน
คส. 2:15 พระองค์ทรงปลดพวกภูตผีที่ครอบครองและพวกภูตผีที่มีอำนาจ พระองค์ทรงประจานพวกมันอย่างเปิดเผย และมีชัยชนะเหนือพวกมันโดยทางกางเขนนั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)